เวลานั่งเครื่องบินไปไหนต่อไหน ชั่วโมง 2 ชั่วโมงก็พอทำเนา แต่ถ้าต้องเป็นวันเป็นคืน ตื่นก็แล้วหลับก็แล้วยังไม่ถึงสักที
มีวิธีอะไรบ้างที่จะทำให้ความทรมานที่ยาวนานนั้นลดน้อยลง
|
|
แต่งชุดสบายๆ ไม่รัดรึง ไม่ใส่เสื้อผ้าที่จะเกิดไฟฟ้าสถิต |
|
ถ้าขี้หนาว ควรมีเสื้อคลุมหรือสเวตเตอร์บางๆ ติดตัว |
|
เตรียมอุปกรณ์ล้างหน้า แปรงฟัน ผัดแป้งไว้ใช้เวลารู้สึกโทรม เต็มทน |
|
ติดหนังสืออ่านเล่นของนักเขียนชั้นดีที่ไม่มีเวลาอ่านสักทีตอนอยู่บ้านเอาไปอ่านด้วยเพลินๆ |
|
เกมกดเกมใหม่ก็ฆ่าเวลาได้ไม่เลว โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่หัวใจไม่ยอมแก่ |
|
ถ้าเป็นคนเมาเครื่องบินหรือรู้สึกวิงเวียนได้ง่าย ควรรับประทานยากันเมาก่อนเครื่องขึ้นครึ่งชั่วโมง ยาจะทำให้ง่วงและหลับสบายด้วยเช่นกัน |
|
อย่ารับประทานอาหารมากเกินไป และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลมมากนัก เพราะจะทำให้ท้องอืดและอึดอัด |
|
ใส่รองเท้าที่สวมสบาย ไม่บีบคับ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงรองเท้าหัวแหลมที่ฟิตเปรี๊ยะพอดี เพราะเวลานั่งนานๆ เท้าจะบวกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทรมานยิ่งนัก และถ้าเผลอถอดรองเท้าด้วยแล้วอาจจะใส่กลับไปไม่ได้เลยทีเดียว |
|
ลุกขึ้นเดินและเปลี่ยนอิริยาบถบ้างในเวลาที่เครื่องบินลอยตัวนิ่ง แต่เวลาพนักงานต้อนรับกำลังเสิร์ฟอาหาร หรือมีสัญญาณให้รัดเข็มขัดนั่งอยู่กับที่ พึงอยู่กับที่ อย่างเพิ่งลุกขึ้นมาเดินออกกำลังกายตอนนั้น |
|
นำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องเท่าที่จำเป็น คือ ใส่กระเป๋าขนาดเล้กที่เรียกว่า เคบินแบ็กเกจเพียง 1 ใบพอ กระเป๋านี้จะวางใต้ที่นั่งข้างหน้าหรือในช่องเก็บของเหนือศรีษะได้ ทำให้มีที่วางเท้า มีที่พอจะขยับตัว และไม่เกะกะผู้โดยสารคนอื่นด้วย |
|
ถ้าไม่สูบบุหรี่หรือแพ้บุหรี่ ควรยืนยันขอที่นั่งไกลๆ จากแถวสูบบุหรี่ มิฉะนั้นจะทรมานมากยามที่ควันบุหรี่อวลอยู่หลายๆ ชั่วโมง |
|
ถ้าไม่ทานเนื้อ แพ้อาหารทะเล หรือรับประทานอาหารเจ ให้แจ้งตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบิน เพราะถ้าผู้โดยสารเต็มลำ อาหารที่ให้เลือกอีกอย่างหมดเหลือแต่ที่เรากินไม่ได้จะหิวแทบตายเสียเปล่าๆ |
การนั่งเครื่องบินให้มีความสุข อยู่ที่ตัวเราจะเป็นผู้สร้างความสุขให้ตัวเราเองโดยไม่รบกวนผู้โดยสารอื่น และที่สำคัญแอร์โอสเตสกับสจ๊วตท่านมีหน้าที่ให้บริการ แต่ความสุขประเภทเกินเลยนั้นท่านไม่เกี่ยว |