บริษัทวัฒนาสาธิต ซทัดดี้ ทัวร์ จำกัด และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนลูกพาแม่เที่ยว วันแม่

บวชต้นไม้ รักษ์ไพร ไหว้พระในบ้าน

พักที่   โรงแรมสีหราช  จ.อุตรดิตถ์  และ โรงแรมแม่ยมพาเลซ จ.แพร่

เดินทาง : ค่ำศุกร์ที่ 8 – เช้าอังคารที่  12 สิงหาคม 2551 (4คืน 3 วัน)

 

  

 

         “...การปลูกป่าสำคัญที่ปล่อยให้เขาขึ้นเองได้  อย่าไปตอแยกับต้นไม้  อย่าไปรังแกต้นไม้  เพียงแต่คุ้มครองเขาหน่อย  ขออย่าไปรังแกเท่านั้นเอง  ไม่ต้องทำอะไรมาก...”

                                 พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ   เกี่ยวกับแนวทางการฟื้นฟูป่าธรรมชาติ เมื่อ 5 ธันวาคม 2537

 

         การบวชต้นไม้   เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในความเชื่อและเจตนาของชุมชน   ส่วนมากเน้นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่  มีความสำคัญต่อการระบบนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม   เพื่อต้นไม้ในป่าที่ถูกทำลายจะสามารถฟื้นคืนสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี  ถ้าไม่ถูกรบกวนอีก ต้นไม้จะคืนความชุ่มชื้นกลับสู่ป่าเขาและคงไว้ซึ่งต้นน้ำลำธารตามธรรมชาติด้วย …

 

 

ศุกร์ที่  8  สิงหาคม  2551           กรุงเทพฯ – อุตรดิตถ์

19.30 น.      สมาชิกทุกท่านพร้อมกันที่  สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ชานชาลาที่ 7

·         เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

20.10 น.      ออกเดินทางโดยรถเร็วกรุงเทพ–เด่นชัย ขบวนที่ 107 ตู้นอนโทปรับอากาศ เดินทางสู่จังหวัดอุตรดิตถ์

                  (ท่านสามารถขึ้นรถไฟระหว่างทางได้ที่ สถานีรถไฟสามเสน , ชท.บางซื่อ , บางเขน , หลักสี่ , ดอนเมือง , รังสิต )

·         ทักทายคนกันเองรอบข้าง

·         บริการน้ำดื่ม

·         พักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์

                  หมายเหตุ  ทุกท่านควรจะรับประทานอาหารเย็นมาเรียบร้อยแล้ว เพราะอาหารบนรถไฟไม่มีให้เลือกหลากหลาย

 

เสาร์ที่  9  สิงหาคม  2551           อุตรดิตถ์ – เขื่อนสิริกิติ์

04.45 น.      ถึงสถานีรถไฟอุตรดิตถ์   เปลี่ยนพาหนะเป็นรถบัสปรับอากาศ  นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมสีหราช  อุตรดิตถ์

·         ปฏิบัติภารกิจส่วนตัว

08.00 น.      รับประทานอาหารเช้าที่  ร้านเล้งเลือดหมู   ( ต้มเลือดหมู ,ข้าวมันไก่ )

09.00 น.      เดินทางสู่ วัดท่าถนน    ที่ประดิษฐาน หลวงพ่อเพ็ชร์  ศิลปะเชียงแสน   หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ปางขัดสมาธิ

                  เพชร  ซึ่งเดิมพบพระเกศมาลาโผล่ขึ้นมาเหนือจอมปลวกขนาดใหญ่ในวัดสระแกวัดร้างในเมืองลับแล    ครั้งที่

                  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ  ให้สร้างวัดเบญจมบพิตร ได้อัญเชิญหลวงพ่อเพ็ชร์ไป

ประดิษฐานเป็นเวลาถึง 10 ปี  ต่อมาหลวงนฤนารถเสนี (พัน) ได้ขอพระราชทานกลับคืนมาที่วัดท่าถนนดังเดิม และสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระปิยมหาราช   ริมแม่น้ำน่านจากนั้นสักการะ  อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก  นักรบผู้กล้าขุนศึกคู่บารมีในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช   ซึ่งเกิดในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงที่ครองเมืองพิชัยในสมัยกรุงธนบุรี ในปี พ.ศ.2316  ท่านได้สร้างวีรกรรมคือ ยกทัพไปสกัดทัพพม่าจนแตกพ่ายไป  การรบครั้งดาบนั้นคู่มือหักไปหนึ่งเล่มเพราะไม่ได้ใช้น้ำพี้ จึงเป็นที่มาสมญานามว่า  พระยาพิชัยดาบหัก ชม  พิพิธภัณฑ์ดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก  มีน้ำหนักถึง 557.8 กิโลกรัม    ฝักดาบทำด้วยไม้ประดู่ฝังลวดลายมุก หุ้มปลอกเงินสลักลาย  และชมอาวุธโบราณ ตลอดจนเครื่องรางของขลังที่ทำจากเหล็กน้ำพี้และ ชม พิพิธภัณฑ์พระยาพิชัย  ที่จัดแสดงประวัติของพระยาพิชัย  ประวัติการสู้รบ  แบบจำลองสนามรบ  ตลอดจนอาวุธประเภทต่างๆ  ของท่าน   เดินทางต่อสู่ บ้านพระฝาง ชม วัดพระฝางสวางคบุรีมุนีนาถ  ซึ่งเคยเป็นวัดที่จำพรรษาของเจ้าพระฝางเมืองสวางคบุรี  เป็นผู้เชี่ยวชาญทางวิชาอาคมและเป็นผู้นำชุมนุมเจ้าพระฝางในสมัยกรุงธนบุรี สักการะ พระฝางทรงเครื่อง ที่พระพุทธรูปที่มีความงดงามภายในโบสถ์มหาอุตม์และชมพระบรมธาตุเจดีย์ทรงลังกา ที่บรรจุพระทัณตธาตุขององค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เป็นที่สักการะบูชาของชาวพุทธตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมา

                  จากนั้นนำท่านสู่ อำเภอท่าปลา

12.30 น.      รับประทานอาหารกลางวันที่....ร้านระเบียงน่าน

ชมทัศนียภาพความงามเหนือ เขื่อนสิริกิติ์  ที่บ้านผาซ่อม   สันเขื่อนมีความยาวถึง  800 เมตร  ใหญ่เป็นอันดับ 3  รองจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนภูมิพล   มีบรรยากาศวิวทิวทัศน์สวยงาม อากาศเย็นสบายเพราะล้อมรอบไปด้วยทิวเขา  มองเห็นความร่มรื่นของอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ตระการตาซึ่งได้รับการขนานนามว่า  ทะเลสาบสุริยัน – จันทรา  เป็นเขื่อนรุ่นแรกๆ    ของไทยที่มีอายุกว่า 28 ปี  นับถึงวันนี้     โดยถือเอาวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนอย่างเป็นทางการ     เมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ  ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเสร็จเมื่อวันที่  4 มีนาคม พ.ศ.2520 ให้ประโยชน์เอนกประสงค์ทั้งการเกษตรกำเนิดไฟฟ้าและควบคุมน้ำท่วม    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ่ายน้ำปลูกข้าวนาปรังในทุ่งเจ้าพระยาและช่วยเหลือน้ำท่วมในเมืองแพร่และพิจิตร  ชมประติมากรรมสู่แสงสว่าง ในสวนสุมาลัยและสักการะ พระพุทธสิริสัตตราช หรือหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์   ปางนาคปรกที่สร้างไว้โดยหลวงปู่สอ พันธุโล ซึ่งประดิษฐานไว้ตามเขื่อนสำคัญในเมืองไทย    เดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองอุตรดิตถ์

19.00 น.      รับประทานอาหารค่ำที่  ร้านคุณใหญ่

                  จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก  โรงแรมสีหราช    หลังอาหารนำกลับที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย … ราตรีสวัสดิ์

 

อาทิตย์ที่  10  สิงหาคม  2551     อุตรดิตถ์ – ลับแล – แพร่

07.00 น.      รับประทานอาหารเช้าที่  ห้องอาหารของโรงแรม

08.00 น.      เดินทางสู่  วัดพระแท่นศิลาอาสน์   ซึ่งเป็นแท่นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า  ประดับด้วยลายกลีบบัว  ตามตำนานกล่าวว่าพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์เคยเสด็จมาบำเพ็ญพุทธบารมี ณ ที่แห่งนี้  ต่อมาจึงมีการสร้างพระแท่นขึ้น  ฐานพุทธบัลลังก์สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย  แต่ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง และชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในศาลาการเปรียญเก่าที่ตกแต่งแบบล้านนา ซึ่งมีทั้งเครื่องมือจับสัตว์น้ำโบราณ  เรือพายโบราณ    ของใช้ในวิถีชีวิตชาววังและชาวบ้านสมัยก่อน  เครื่องจักสาน   เครื่องมือตีเหล็ก  เครื่องปรุงยาสมุนไพร  เครื่องสังคโลกสมัยสุโขทัย ธรรมาสน์หลวงโบราณฝีมือช่างสมัยอยุธยา และพระพุทธ-รูปที่แกะจากต้นโพธิ์โบราณ  …..

09.30 น.      ออกเดินทางสู่ เมืองลับแล เมืองที่เต็มไปเป็นสวนผลไม้บนภูเขา ตามภูมิประเทศที่สลับซับซ้อนแต่ซ่อนวิถีชีวิตที่เรียบง่าย   ชม น้ำตกแม่พูล  ที่เกิดจากการตกแต่งธารน้ำโดยการเทปูน  ทำให้น้ำไหลลดหลั่นจากบนเขาลงมาดูคล้ายน้ำตกธรรมชาติ สภาพโดยรอบร่มรื่น  บริเวณใกล้กันเป็นสวนลางสาดผลไม้ประจำถิ่นลับแล

10.00 น.      ร่วม พิธีบวชต้นไม้  รักษ์ไพร เพื่อเป็นการต่ออายุต้นไม้ให้เจริญยั่งยืนสืบไปตามคติความเชื่อของชาวล้านนา

                  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการยับยั้งการทำลายธรรมชาติและช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม    เป็นการรักษาป่าไม้ที่

เป็นต้นน้ำลำธารให้อุดมสมบูรณ์  และสร้างความสำนึกให้กับชุมชนในการดูแลรักษาธรรมชาติ   พิธีบวชต้นไม้จะมีผลทำให้น้ำไม่แห้ง ฝนตกต้องตามฤดูกาล  จึงขอเชิญชวนท่านร่วมพิธีบวชต้นไม้เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชาวบ้านและต้นไม้ในโอกาสนี้…

12.00 น.      รับประทานอาหารกลางวันที่ เฮือนลับแล ลองลิ้มชิมรสกับอาหารพื้นบ้าน อาทิ “หมี่พัน”  และ “ข้าวพันผัก”

                  ของชาวลับแลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

บ่าย             เดินทางสู่ อำเภอเด่นชัย  จังหวัดแพร่

                  ชมความงามของ พระธาตุสุโทนมงคลคีรี   และ พิพิธภัณฑ์สุวรรณหอคำ ที่สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง

ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุมีค่า อาทิ พระพุทธรูปต่างๆ เครื่องเขิน อาวุธโบราณ เครื่องดนตรีล้านนา รูปภาพเจ้านายฝ่ายเหนือ  ภาพเหตุการณ์ในอดีตต่างๆ  และสักการะพระพุทธไสยาสน์นาม พระนอนแสนสุข ที่งดงาม ชมสถาปัตยกรรมในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ที่ใช้เวลาในการสร้างถึง 3 ปี  ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของทายาทรุ่นที่ 4    ของตระกูลวงศ์บุรีที่  คุ้มวงค์บุรี อดีตคุ้มเจ้าเมืองแพร่ ผู้สืบเชื้อสายมาจากเจ้าฟ้าชายสามจุฬามณีสิริเมฆภูมินทร์แห่งนครเชียงตุง  ปัจจุบันคุ้มแห่งนี้มีอายุถึง 111 ปี   และได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นปี 2536 จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และชิมขนมพื้นเมืองบริเวณกาดมั่ว ที่จำลองขึ้นมาในบริเวณคุ้มวงศ์บุรี ….

                  สมควรแก่เวลานำเข้าที่พัก  โรงแรมแม่ยมพาเลซ จ.แพร่ โรงแรมที่ดีที่สุดของจังหวัดแพร่ พักผ่อนตามอัธยาศัย

18.30 น.      เดินทางสู่ โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์ เพื่อรับประทานอาหารค่ำ (เชิญชวนแต่งกายชุดไทยพื้นเมือง)

19.00 น.      รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์

·   ร่วมพิธีไหว้พระในบ้าน แสดงกตเวทิตา พระคุณแม่นั้นไซร้ใหญ่หลวงนัก

·   ระหว่างอาหารร่วมสังสรรค์กันตามประสาคนกันเอง

·   ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา และการแสดงวรรณกรรมเรื่อง พระลอ

                  สมควรแก่เวลานำกลับที่พัก...พักผ่อนตามอัธยาศัย  ราตรีสวัสดิ์

 

จันทร์ที่  11  สิงหาคม  2551       แพร่ – เด่นชัย – กรุงเทพฯ

06.00 น.      อรุณสวัสดิ์ชวนกัน นั่งรถสามล้อ ลัดเลาะกำแพงเมือง  ชมวิถีชีวิตชาวเมียงแป้  และไปทำบุญตักบาตรกันที่ประตูชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักท่านใดจะลองชิมขนม อาหารท้องถิ่นภายในบริเวณกาดมั่วของเทศบาลเมียงแป้  ก็เชิญได้ตามอัธยาศัยคร๊าบ

08.00 น.      รับประทานอาหารเช้าร้อนๆ ที่  ห้องอาหารของโรงแรม

09.30 น.      เดินทางต่อสู่ วัดพระธาตุช่อแฮ สักการะ พระธาตุช่อแฮ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  ซึ่งพระมหาธรรมราชาลิไทแห่งกรุงสุโขทัยได้พระราชทานไว้  มีอายุมากว่า 700 ปี   รูปทรงแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง  ศิลปะแบบเชียงแสนบุด้วยทองดอกบวบ  และเป็นพระธาตุประจำปีขาล และนำท่านสู่หมู่บ้านหัตถกรรม บ้านทุ่งโฮ้ง  ชุมชนชาวไทพวนที่อพยพมาจากเมืองเชียงขวาง  ในช่วงปี พ.ศ.2360 – 2380 มีอาชีพหลักในการทำผ้าหม้อห้อมแท้  ที่สืบกันมาหลายชั่วอายุคน  จนปัจจุบันกลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแพร่  ..เชิญท่านชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และสินค้าต่างๆ ตามอัธยาศัย

เที่ยง           รับประทานอาหารกลางวันที่  สวนอาหารบ้านฝ้าย

บ่าย             สักการะพระธาตุหลวงไชยช้างค้ำ  พระเจ้าแสนหลวง และ พระพุทธรูปทองคำฐานเงิน ณ  วัดหลวง ที่ปรากฏ

หลักฐานว่ามีอายุมากว่าพันปีแล้ว  ตั้งแต่ พ.ศ.1371–1373 จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พักเพื่ออาบน้ำ  เก็บสัมภาระ  เตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ          สมควรแก่เวลาเดินทางสู่  ตลาดหัวดง อำเภอสูงเม่น     ชมงานหัตถกรรมไม้สัก  แพร่สักทอง ของตกแต่งบ้าน ภาพแกะสลัก งานฉลุไม้ทุกชนิดทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่  ของที่ระลึกมากมายจากฝีมือชาวแพร่ที่มารวมไว้ที่นี่

17.30 น.      ออกเดินทางสู่ สถานีรถไฟเด่นชัย

19.05 น.      ออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยรถเร็ว  ขบวนที่ 108 เด่นชัย - กรุงเทพฯ ตู้นอนโทปรับอากาศ

·         บริการอาหารกล่อง  และเครื่องดื่ม

·         พักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์

 

อังคารที่  12  สิงหาคม  2551      กรุงเทพฯ

05.10 น.      ถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ

                  (ท่านสามารถเลือกลงได้ที่สถานีรถไฟรังสิต, ดอนเมือง, หลักสี่, บางเขน, ชท.บางซื่อ, สามเสน และหัวลำโพง)

·         กลับถึงบ้านด้วยความสนุกสนานและประทับใจยิ่ง

 

หมายเหตุ    1. กำหนดการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างตามเหตุการณ์และความเหมาะสม

                  2. กิจกรรมพิธีบวชต้นไม้ กาดมั่วที่บ้านวงศ์บุรี การแสดงศิลปวัฒนธรรมและวรรณกรรมพระลอ

                      จัดบริการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

                  3. ลูกที่พาแม่ไปเที่ยวอย่าลืมเตรียมพวงมาลัยไปกราบคุณแม่ในงานพิธีไหว้พระในบ้านด้วย

 

อัตราค่าบริการ              

ท่านละ              5,500  บาท

เด็ก                   3,800  บาท (อายุ 4-11 ปี พักเสริมเตียงรวมกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน )

พักเดี่ยวเพิ่ม          800  บาท

 

บริการที่จัดให้               

·         รถไฟไป – กลับ ขบวนรถเร็ว ตู้นอนโทปรับอากาศ กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์ / เด่นชัย-กรุงเทพฯ

·         รถโค้ชปรับอากาศ พร้อมห้องสุขภัณฑ์

·         ที่พักตามรายการ (ห้องละ 2 ท่าน)

·         อาหารจัดเลี้ยงทุกมื้อตามที่ระบุไว้ในรายการ

·         เครื่องดื่มบนรถระหว่างการเดินทาง

·         ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ

·         ทุนประกันอุบัติเหตุ ในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท

·         วงเงินค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุท่านละ 500,000 บาท

·         มัคคุเทศก์และทีมงานที่เข้มแข็งของบริษัทฯ

 

อัตรานี้ไม่รวม               

·         ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด , ค่ามินิบาร์

·         ค่าอาหารในแต่ละมื้อ และเครื่องดื่มที่ผู้เดินทางสั่งเองนอกเหนือจากที่ทัวร์จัดบริการ

·         ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%